ราชทัณฑ์ มีแพลนให้ “ทักษิณ” พบนักจิตวิทยา ขณะที่ครอบครัวฝากเงิน 15,000 บาทเข้าบัญชีให้ใช้จ่ายภายในเรือนจำฯ ซื้ออาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามระเบียบ “อิ๊งค์” เผยคุณพ่อกำลังใจก็ยังโอเคอยู่ มีบ่นเรื่องการพักผ่อนที่นอนไม่ดีบ้าง ส่วนลูกเขย ปฏิเสธตอบคำถาม หลังถูกถามมีชื่อนั่งแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทยคนต่อไป บอก ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้

เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 18 กันยายน 2568 ที่เรือนจำกลางคลองเปรม นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมด้วยทีมงาน ได้เดินเข้ามายังบริเวณอาคารศูนย์บริการงานเยี่ยมญาติผู้ต้องขังเรือนจำกลางคลองเปรม เพื่อประสานทำเรื่องขอเยี่ยมในส่วนของครอบครัวนายทักษิณ

ขณะที่ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า สำหรับกระบวนการวันนี้ ทางเรือนจำฯ มีแพลนจะให้นายทักษิณ ได้พบกับนักจิตวิทยา ซึ่งเป็นขั้นตอนการตรวจสุขภาพตามปกติ ส่วนการใช้ชีวิตประจำวันส่วนใหญ่พบว่าตื่นนอนประมาณ 06.00 น. และเข้านอนประมาณ 21.30 น. ขณะที่การรับประทานอาหาร มื้อเช้านายทักษิณยังคงรับประทานไข่ต้มและไข่ลวกเช่นเดิม ส่วนระหว่างวันจะทำกิจกรรมอย่างการอ่านหนังสือ ดูทีวี เดินแกว่งแขน นอกจากนี้ ทราบว่าจะมีการเยี่ยมญาติเป็นครั้งที่สอง โดยมีบุคคลในครอบครัวติดต่อขอเยี่ยมประมาณ 10.00 น. ทั้งนี้ ญาติได้ฝากเงินให้ใช้จ่ายภายในเรือนจำฯ เป็นไปตามระเบียบไม่เกิน 15,000 บาท ใช้ได้ไม่เกินวันละ 500 บาท ส่วนใหญ่สั่งซื้ออาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ

ต่อมาเมื่อเวลา 09.50 น. ขบวนรถตู้ส่วนบุคคลของครอบครัวชินวัตร ยี่ห้อ Lexus สีดำ ทะเบียน 9 กษ 195 กรุงเทพมหานคร ซึ่งประกอบด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาวคนกลางของนายทักษิณ นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีของ น.ส.แพทองธาร และนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีของ น.ส.พินทองทา ได้เดินทางเข้ามาถึงเรือนจำฯ เพื่อเตรียมเข้าเยี่ยมนายทักษิณในเวลา 10.00 น. โดยพบว่า น.ส.แพทองธาร แต่งกายด้วยชุดสีดำทั้งหมด ตั้งแต่เสื้อสูทสีดำและกางเกงขายาวสีดำ ส่วน น.ส.พินทองทา แต่งกายด้วยเสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ พร้อมถือซองจดหมายสีขาว จ่าหน้าซองด้วยปากกาสีชมพู ระบุคำว่า “GRANDPA THAKSIN” และมีรูปวาดเล็กน้อยที่มุมซ้ายของซองจดหมาย ซึ่งคาดว่าจดหมายฉบับนี้จากหลาน ๆ ของนายทักษิณ ที่ น.ส.พินทองทา พกมาด้วย ซึ่งเกิดจากการที่ก่อนหน้านี้นายทักษิณได้มีการบ่นว่าคิดถึงหลาน ๆ

สำหรับบรรยากาศบริเวณด้านหน้าเรือนจำฯ ขณะที่ทั้งหมดกำลังจะเดินเข้าภายในเรือนจำฯ ได้มีตัวแทนคนเสื้อแดง เป็นชายสูงอายุ สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีกรมท่า กางเกงยีนส์ ได้กล่าวทักทาย น.ส.แพทองธาร และครอบครัว พร้อมกับยื่นพระเครื่อง จำนวน 5 องค์ เบื้องต้นพบว่าเป็นหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ให้กับ น.ส.แพทองธาร พร้อมบอกว่า ”ให้พกเก็บเอาไว้จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง“ โดย น.ส.แพทองธาร ได้มองดูพระเครื่องบนฝ่ามือตัวเอง และกล่าวขอบคุณชายคนเสื้อแดงดังกล่าว ก่อนเก็บพระเครื่องเข้ากระเป๋าถือส่วนตัว อีกทั้งชายคนดังกล่าวยังมีการมอบกรอบรูปภาพขนาดเล็ก ซึ่งพบว่าในภาพเป็นรูปพระสงฆ์รูปหนึ่งกำลังนั่งสมาธิวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้มอบให้กับเลขาส่วนตัวเป็นผู้รับไว้แทน

จากที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ นายปิฎก และนายณัฐพงศ์ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ภายในแดนพยาบาล เป็นครั้งที่สอง โดยใช้เวลาเข้าเยี่ยมเพียง 15 นาที ก่อน น.ส.แพทองธาร ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ว่า วันนี้ออกมาเร็ว เพราะว่าคุณพ่อไม่ค่อยสบายเลยได้เยี่ยมเพียงสั้น ๆ ทราบว่ามีเรื่องความดัน คุณพ่อก็บอกว่ามีอาการเพลีย ๆ แม้ว่าตัดผมสั้นแล้วแต่ผมก็ยังร่วงอยู่ ก็น่าจะมีความเครียด แต่คุณพ่อก็ยังยิ้มแย้มอยู่บ้าง

นอกจากนี้ คุณพ่อบอกว่ามีเรื่องการพักผ่อนที่นอนไม่ดีบ้าง แต่เรื่องกำลังใจก็ยังโอเคอยู่ ส่วนการรับประทานอาหารตนไม่แน่ใจ บอกเพียงแต่ว่าเมื่อคืนนี้นอนไม่ดี ส่วนว่ามีอาการปวดหลังหรือไม่ ตนไม่แน่ใจ พ่อบอกแค่ว่านอนไม่ดี ทั้งนี้ ครอบครัวเราก็ให้กำลังใจกันและกัน ก็เป็นการเยี่ยมแบบที่คุณพ่อเดินมาก็นั่งคุยกันผ่านกระจก ก็ให้กำลังใจกัน คุยสั้น ๆ และคุยยากนิดหนึ่ง ส่วนวันนี้หลาน ๆ ก็ได้เขียนจดหมายมาฝากให้คุณตา พวกเราก็เลยฝากเข้าไปให้คุณพ่อ ส่วนเรื่องผลการเอกซเรย์ปอดเป็นอย่างไรบ้าง ตนไม่ทราบ ไม่ได้พูดคุยกันเรื่องนี้ เห็นแต่ว่าคุณพ่อวันนี้ดูเหนื่อย ๆ

ด้าน น.ส.พินทองทา กล่าวว่า วันนี้หลาน ๆ ก็ได้เขียนจดหมายมาฝากให้คุณตา โดยเป็นการเขียนให้กำลังใจคุณตา เพราะเห็นถึงความอดทนของคุณตา ก็เลยเขียนจดหมายมาให้กำลังใจ ถ้าสามารถส่งจดหมายมาได้บ่อย ๆ ก็จะพยายามเขียนส่งมาให้คุณตา คุณตาจะได้มีเพื่อน โดยเนื้อหาภายในจดหมายถูกเขียนขึ้นโดยลูกสาวฝาแฝดคนโต แต่เขียนในนามแทนน้อง ๆ 7 คน

ขณะที่ นายณัฐพงศ์ ปฏิเสธตอบคำถามถึงกระแสข่าวที่ตัวเองมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของพรรคเพื่อไทย โดยเพียงแค่ยิ้มให้สื่อ และเมื่อถามต่อว่า หลังจากนี้สนใจลงเล่นการเมืองหรือไม่ นายณัฐพงศ์ กล่าวสั้น ๆ ว่า “ ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ ”

ทั้งนี้เมื่อเวลา 10.25 น. น.ส.อุบลกาญจน์ อมรสิน ตัวแทนกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง ยื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการเรือนจำคลองเปรม เพื่อขอให้ใช้ระเบียบและหลักเกณฑ์ของการพักการลงโทษและการกักขังนอกเรือนจำของกรมราชทัณฑ์ โดย น.ส.อุบลกาญจน์ กล่าวว่า ตามที่กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้ยื่นหนังสือต่อท่านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อคัดค้านการกักขังนอกเรือนจำของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น ตนคัดค้านกลุ่ม คปท. และพวก ซึ่งเห็นว่า ขณะนี้นายทักษิณ ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว และเวลานี้ท่าน ได้อยู่ในการควบคุมของกรมราชทัณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. ตนเห็นว่าควรให้เป็นหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ในการปฏิบัติต่อผู้ถูกคุมขังตามกฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์ และผู้ถูกคุมขัง ควรได้รับสิทธิตามหลักเกณฑ์ของทางราชทัณฑ์กำหนดไว้ เช่นเดียวกับผู้ถูกคุมขังอื่น ๆ การคัดค้านของกลุ่ม คปท. คือการขัดขวางก้าวก่าย แทรกแซง การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ โดยกดดันให้กรมราชทัณฑ์ทำตามอคติ ความเกลียดชังของกลุ่ม คปท. ไม่ยึดตามกฎ กติกาหรือระเบียบที่ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน เช่น องค์ประกอบในการพักการลงโทษ หรือการกักขัง นอกเรือนจำนั้น ย่อมเป็นเงื่อนไขที่ใช้ได้กับผู้ต้องขังที่เข้าองค์ประกอบทุกคน ไม่ใช่เลือกปฏิบัติต่อบุคคลใด บุคคลหนึ่ง ตนและมวลชนคนเสื้อแดงมีความศรัทธาระบบของกรมราชทัณฑ์ต่อการดำเนินการทั้งเรื่องพักการลงโทษ และการกักขังนอกเรือนจำนั้นเป็นอย่างยิ่ง และขอเป็นกำลังใจให้ท่านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้ใช้ธรรมาภิบาลอย่างถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรมตรวจสอบได้ ในการพิจารณาอนุญาตให้นายทักษิณ ได้รับการพักโทษและการคุมขังนอกเรือนจำ ตามหลักเกณฑ์ที่กรมราชทัณฑ์กำหนดไว้และตามสิทธิที่ท่านสมควรได้รับ

ต่อมานายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าเยี่ยม นายทักษิณ เป็นเวลามากกว่า 1 ชั่วโมง ว่า วันนี้เป็นการเยี่ยมญาติตามปกติ โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และคู่สมรส ร่วมเข้าเยี่ยมไปก่อน หลังจากนั้นตนใช้สิทธิ์เยี่ยมในฐานะทนายความ เพื่อหารือในหลายประเด็น แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

สิ่งที่กังวลที่สุดคือปัญหาสุขภาพของนายทักษิณ ซึ่งยังมีโรคประจำตัวหลายอย่าง ทั้งโรคหัวใจ กระดูกคอและหลัง ปัญหาปอด รวมถึงโรคตับ โดยได้ขอให้ทางเรือนจำติดตามอาการอย่างใกล้ชิด หากมีสัญญาณผิดปกติควรรีบส่งต่อไปยังสถานพยาบาลทันที ซึ่งเป็นสิทธิพื้นฐานของผู้ต้องขัง ไม่ใช่สิทธิพิเศษใด ๆ นอกจากนี้ยังได้หารือเรื่องสวัสดิภาพและความปลอดภัย เนื่องจากนายทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีและนักโทษการเมืองที่อาจมีผู้เห็นต่าง โดยผู้บัญชาการเรือนจำได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน ขณะนี้ยังไม่สามารถอนุญาตให้บุคคลอื่นนอกเหนือจากรายชื่อ 10 คนที่ลงทะเบียนไว้เข้าเยี่ยมได้ ขณะนี้นายทักษิณยังอยู่ในช่วงปรับตัว และนายทักษิณก็รับรู้ ได้รับกำลังใจจากครอบครัวและประชาชนที่ส่งความห่วงใยมาอย่างต่อเนื่อง