ผบช.ภ.2 สั่งตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจาก ‘ภ.จว.ชลบุรี-ภ.จว.ระยอง’ เตรียมความพร้อมสมทบชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว เพื่อสับเปลี่ยนกำลังพล ไม่ให้ปฏิบัติภารกิจเหน็ดเหนื่อยจนเกินไป เน้นย้ำการปฏิบัติตามยุทธวิธี จากเบาไปหาหนัก

ความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568

พล.ต.ต.ถาวร ดุลยวิทย์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว นำเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน ที่เดินทางมาจากจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดปราจีนบุรี ประมาณสองกองร้อย เพื่อซักซ้อมความพร้อม สำหรับการควบคุมฝูงชน โดยได้แจกจ่ายอุปกรณ์สำหรับการควบคุมฝูงชนครบทุกนาย

โดยในช่วงบ่ายจะเดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณแนวลวดหนามป้องกันความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว เพื่อดำเนินการคุ้มกันให้ความปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามแนวชายแดน

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รอง ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดที่บริเวณชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้วเมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีมวลชนชาวกัมพูชา มารื้อลวดหนามและกดดันทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จนเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยทั้งทหารและตำรวจต้องใช้ชุดควบคุมฝูงชน เข้าทำการตอบโต้ โดยใช้แก๊สน้ำตา และกระสุนยาง เข้าสลายมวลชนชาวเขมรจนสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ในช่วงเย็นของวันที่ 17 ที่ผ่านมา

ผบช.ภ.2 สั่งตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจาก ‘ภ.จว.ชลบุรี-ภ.จว.ระยอง’ เตรียมความพร้อมสมทบชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว เพื่อสับเปลี่ยนกำลังพล ไม่ให้ปฏิบัติภารกิจเหน็ดเหนื่อยจนเกินไป เน้นย้ำการปฏิบัติตามยุทธวิธี จากเบาไปหาหนัก
ความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568

พล.ต.ต.ถาวร ดุลยวิทย์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว นำเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน ที่เดินทางมาจากจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดปราจีนบุรี ประมาณสองกองร้อย เพื่อซักซ้อมความพร้อม สำหรับการควบคุมฝูงชน โดยได้แจกจ่ายอุปกรณ์สำหรับการควบคุมฝูงชนครบทุกนาย

โดยในช่วงบ่ายจะเดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณแนวลวดหนามป้องกันความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว เพื่อดำเนินการคุ้มกันให้ความปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามแนวชายแดน

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รอง ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดที่บริเวณชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้วเมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีมวลชนชาวกัมพูชา มารื้อลวดหนามและกดดันทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จนเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยทั้งทหารและตำรวจต้องใช้ชุดควบคุมฝูงชน เข้าทำการตอบโต้ โดยใช้แก๊สน้ำตา และกระสุนยาง เข้าสลายมวลชนชาวเขมรจนสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ในช่วงเย็นของวันที่ 17 ที่ผ่านมา

 

โดยในวันนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนจากจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเสริมกำลังกับเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนของตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เพื่อดำเนินการควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบและสามารถวางแนวลวดหนามได้ตามนโยบายไม่ให้ชาวเขมรลุกล้ำอธิปไตยของไทยได้

ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 2 สั่งเตรียมพร้อมและเสริมกำลังพลเข้ามาประจำการที่บริเวณแนวชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว อีกจำนวน 6 หมวด ทั้งจากตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี พร้อมอุปกรณ์โล่ป้องกันตัว ในการเตรียมนำกำลังเข้าไปบริเวณแนวหน้าบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งขณะนี้ยังมีชุดควบคุมฝูงชน ของตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ประจำการอยู่พื้นที่ชายแดน ใกล้จุดที่เกิดการปะทะกันเมื่อวานนี้

 

 

ทั้งนี้ สถานการณ์วันนี้ พบความเคลื่อนไหวของชาวกัมพูชา และกำลังของทหารชาวกัมพูชา มีการรวมมวลชน เคลื่อนไหวมาบริเวณตรงข้ามบ้านหนองหญ้าแก้ว ทำให้ขณะนี้ตำรวจมีการกำชับให้กำลังพลทุกนายเตรียมความพร้อมนำโล่และอุปกรณ์ที่ใช้ในการปราบจลาจลมาใช้ โดยจะยึดหลักสากลปฏิบัติการจากเบาไปหาหนัก

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ยังสั่งให้เตรียมพร้อม ชุดควบคุมฝูงชนทั้งจากจังหวัดชลบุรี และระยอง เข้ามาเสริมอีกในพื้นที่ เพื่อสับเปลี่ยนกำลังพล เพื่อไม่ให้กำลังพลปฏิบัติงานเหน็ดเหนื่อยจนเกินไป

 

 

รายงานข่าวแจ้งว่า พลตรี สุรวิชญ์ แดงจันทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะยกระดับความเข้มข้น โดยทางตำรวจภูธรภาค 2 ส่งกำลังควบคุมฝูงชนสมทบในพื้นที่ 5 กองร้อย รวมของเดิม 2 กองร้อย รวมเป็น 7 กองร้อย หากละเมิดอีก จับกุมได้ทันที พร้อมขนขึ้นรถผู้ต้องหาดำเนินคดี ตามกฎหมายไทย ที่กำหนดว่าเข้าข่ายใด